Header Ads

ลุงน้องชมพู่หวั่นถูกจับ หากพบดีเอ็นเอ



จากกรณีน้องชมพู่ หนูน้อย 3 ปี ที่สูญหายจากบ้าน อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ ค 63 กระทั่งไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กิโลเมตร โดยผลชันสูตรจาก รพ.ตำรวจ ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาดีเอ็นเอแฝง โดยผ่านมา 29 วันแล้วแต่ก็ยังหาเสื้อของน้องชมพู่ไม่พบ

ล่าสุดวันที่ 9 มิถุนายน 63 นายไชย์พล วิภา (ลุงของน้องชมพู่) กล่าวว่า ตนยืนยันมั่นใจในความบริสุทธิ์ แต่มีกังวลเรื่องผลดีเอ็นเออยู่บ้าง เนื่องจาก วันที่ตนขึ้นไปพบศพน้องชมพู่ ได้สะพายกระเป๋าเป้ที่ใส่เสื้อผ้าและผ้าขนหนูของน้องชมพู่ไป ซึ่งพ่อของน้องชมพู่ เป็นคนเตรียมให้ เผื่อจะเจอน้อง
 โดยขณะขึ้นไปกลับพบว่า หลานสาวเสียชีวิต ซึ่งตนอยู่ใกล้กับศพที่สุด ระยะราว 1 ถึง 2 เมตร โดยก็กังวลว่า เหงื่อตนอาจจะหยดอยู่รอบๆหรือกระเด็นไปถูกตัวน้องชมพู่ แต่ตนยืนยันว่าตนไม่ได้สัมผัสตัวหลานเลย ประกอบกับขณะจนท.พิสูจน์หลักฐานมา ตนได้หยิบเสื้อผ้าตัวใหม่ของชมพู่ที่เตรียมไป

โดยใช้มือเปล่าหยิบส่งให้กับจนท. เพื่อคลุมร่างน้องไว้ เนื่องจาก ขณะนั้นสภาพหลานสาวไม่ได้สวมเสื้อผ้า ซึ่งตนก็กังวลเรื่องนี้อยู่บ้าง ส่วนคดีความหากหมายจับออกมาที่ตนจริง ตนก็พร้อมสู้คดีเพราะยังยืนยันว่าไม่ได้ก่อเหตุ และรักหลานเหมือนลูก
 ทางด้าน นายอนามัย วงค์ศรีชา อายุ 38 ปี พ่อของน้องชมพู่ เผยว่า สำหรับกระเป๋าที่ใส่ของให้ลุงไชย์พล สะพายไปตามหาน้องชมพู่นั้น เป็นกระเป๋าเป้สีน้ำเงินใบเล็กๆซึ่งเดิมทีช่วงวันที่ 12 ถึง 13 มิถุนายน 63 ตนได้นำผ้าขนหนูเล็กไว้เช็ดตัว กางขาสั้นกีฬา เสื้อ 2 ตัว น้ำ 1 ขวดเล็ก นมเปรี้ยวกล่องใหญ่ 1 กล่อง ขนม 1 ห่อ และลูกลิ้นจี่ ใส่กระเป๋าเอาไว้และออกเดินตามหาน้องชมพู่
 พ่อ แม่ น้องชมพู่

แต่ในวันที่ 14 มิถุนายน 63 มีกระแสข่าวว่าเจอรองเท้าเด็กอยู่บนเขา ตอนนั้นยังไม่ทราบว่าลูกสาวเสียชีวิต ซึ่งตนก็รู้สึกกังวลและอยากไปตามหาลูกสาว แต่ยอมรับว่า ในตอนนั้นตนเดินตามหาลูกมา 3 วันจนเดินไม่ไหวแล้ว เพราะเดินตามหาลูกตั้งแต่เช้ายันเย็นทุกวัน ขณะเดียวกันเจอกับลุงไชย์พล ที่กำลังจะเดินขึ้นเขาตามหาพอดี ตนจึงได้มอบกระเป๋าเป้ให้กับลุงพลเป็นคนดูแล เพราะหวังว่าถ้าเดินไปเจอน้องชมพู่ จะได้เปลี่ยนเสื้อผ้าและเอาอาหารให้ลูกกิน
ตอนนั้นตนก็ยังมั่นใจว่า น้องชมพู่ยังมีชีวิตแต่ความจริงได้เสียชีวิตแล้ว ลุงพลจึงได้ทิ้งกระเป๋าใบนั้นไว้บนเขา เพราะต้องการถวายสิ่งของให้หลานสาว แต่ช่วงหลังตำรวจก็ไปเก็บกลับมาไว้เป็นหลักฐาน

อย่างไรก็ตาม ขอให้จับคนร้ายที่ทำกับน้องชมพู่ให้ได้โดยเร็ว และขอเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวของน้องชมพู่ครับ

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว

No comments

Note: Only a member of this blog may post a comment.