แม่ช็อกหนัก หลังเห็นผลชันสูตรรอบ2 จุดที่เน่าที่สุดในร่างกาย

จากกรณีน้องชมพูู่ หนูน้อยวัย 3 ขวบหายออกไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. พ่อและแม่ของน้องชมพู่ พยายามประกาศหาผ่านทางโลกออนไลน์และปูพรมค้นหาตามจุดต่างๆของหมู่บ้านที่ คาดว่าน้องชมพู่จะไปเล่นในบริเวณนั้น แต่ก็ไม่มีวี่แววเจอตัว จนต่อมามีรายงานว่านายพล อาของน้องชมพูได้ไปเจอร่างของหลานนอนเสียชีวิตสภาพไร้เสื้อผ้าติดกายห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร และเจอรองเท้า กางเกง กระจาย อยู่ห่างจากร่างน้องไม่ไกล

ต่อมา ผลการตรวจชันสูตร น้องชมพู่ หรือ ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ปรีชา วัย 3 ขวบ ออกมาแล้ว โดยทางทีมแพทย์นิติเวช รพ.สรรพสิทธิประสงค์ ระบุว่า สภาพศพเน่า คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-3 วัน ทั้งนี้ไม่พบร่องรอยการถูกทำร่างกาย หรือถูกละเมิด เนื่องจากทั้งอวัยวะเพศ และทวารหนัก รวมถึงช่องปากก็ไม่พบแต่ในกระเพาะอาหารของเด็ก พบของเหลวประมาน 10 ซีซี ซึ่งการตรวจสอบและมีการเก็บตัวอย่าง สารคัดหลั่ง แม้จะไม่ถูกล่วงละเมิด แต่แพทย์นิติเวช ได้ทำการเก็บตัวอย่างภายในช่องคลอด ทวารหนัก และช่องปากแต่สิ่งที่แพทย์นิติเวชยังสงสัยและตั้งข้อสังเกต คือ ภายในช่องปากค่อนข้างเน่ามากกว่าส่วนอื่นของร่างกาย จึงตั้งข้อสงสัยว่า เด็กกินอะไรเข้าไปหรือไม่ ซึ่งได้เก็บตัวอย่างในร่างกายเพื่อหาสารพิษ


ล่าสุด นายเสริม สุขพันธุ์ อายุ 43 ปี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นหน้าเขยน้องชมพู่ บอกว่าเดิมกำหนดพิธีการฌาปนกิจศพของนน้องชมพู่ เวลา 14.00น.ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 แต่ต้องถูกยกเลิกเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาแม่ของน้องชมพู่ หลังจุดธูปอยู่หน้าโรงศพให้ก็เกิดความสับสนวุ่นวายในใจเหมือนมีลางสังหรณ์ยังไม่อยากเผาศพลูกสาวหลังนำศพน้องชมพู่ไปผ่าพิสูจน์อยู่ที่โรงบาล จ.อุบลฯ ซึ่งผลผ่าพิสูจน์ไม่พบร่องรอยการถูกกระทำ จึงให้หยุดเผาศพน้องชมพู่ไว้ก่อน เพื่อพิสูจน์การตายของลูกสาวที่แท้จริงหาความเป็นธรรมให้ลูกสาวก่อน จึงร้องเรียนตำรวจท้องที่ขอนำศพน้องชมพู่เข้ากรุงเทพฯ ไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติขอผ่าพิสูจน์ใหม่